หนังดีติดดาว***

หนังดีติดดาว***

              “FAST & FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ผลงานของ GDH จีดีเอช ของผู้กำกับขวัญใจเด็กแนว “เต๋อ-นวพล ธารงรัตนฤทธิ์” ภาพยนตร์แอ็คชันในชีวิตประจำวัน ที่เดิมพันด้วยความเร็ว และความรัก นำแสดงโดย นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต, ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์, โปเต้-อนุสรา กอสัมพันธ์ และ ปริมมี่-วิพาวีร์ พัทธณ์ศิริ  กับเรื่องราวของเกา (ณัฏฐ์ กิจจริต) แชมป์ Sport Stacking กำลังจะต้องลงแข่งแมตช์สำคัญที่ต้องปะทะกับคู่แข่งเด็กทั่วโลก เขาจะต้องเล่นให้ไวกว่า 4.6 วินาที อันเป็นสถิติใหม่ที่ผู้ท้าชิงลึกลับคนหนึ่งทาไว้ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำเป็นอย่างแรกคือ กวาดบ้านกับล้างจานเพราะไม่ได้ทำมา 10 วันแล้ว

              หนังสนุกและตลกแทบจะตลอดทั้งเรื่อง มีทั้งตลกหน้าตายและตลกเสียดสี มุกประเภทประชดประชันชีวิตประจำวันไปจนถึงค่านิยมและทัศนคติของสังคมเป็นอะไรที่ได้ผลมาก คือทั้งขำไปและทำให้ฉุกคิดไปพร้อมกันเลยว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหมายมั่นปั้นมือกับอะไรบางอย่าง ชีวิตช่วงนั้นของเรามันก็จะโฟกัสอยู่แต่ที่สิ่งนั้น จนทำให้เราหลงลืมคนรอบข้างตลอดจนหน้าที่การงานและความรับผิดชอบไป หนังมีความกวน กวนแบบจิกกัดชาวบ้านไปทั่ว แล้วก็วกกลับมาจิกกัดตัวเองและผลงานเก่า ๆ ของเต๋อต่ออีก น่าเสียดายที่เรื่องราวของตัวละครในตอนเริ่มพอมาถึงตอนจบมันก็ไม่ได้ขยับไปมากสักเท่าไหร่นัก ถ้าตัดความเยิ่นเย้อออกสักหน่อย คิดว่าเรื่องราวมันคงกระชับและน่าติดตามมากกว่านี้ จบงานนี้เชื่อว่ามีนักแสดงหน้าใหม่แจ้งเกิดแน่นอน

ติดให้ ***

              เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง “The Batman” : โรเบิร์ต แพตทินสัน

              คำถามภาพยนตร์เรื่อง “FAST & FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ใครกำกับเรื่องนี้?

ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่

#หนังดีติดดาว

32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ขอบคุณ GDH ที่สนับสนุนของรางวัลเล่นเกมทายปัญหา

              พี่นาค 3” ต๊าช…ที่สุด กลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่มาแรงสุดในขณะนี้ที่เปิดตัววันแรกแรงขึ้นแท่นอันดับ 1 ทั้งที่ประเทศไทย และ สปป.ลาว โดยกวาดรายได้ทั่วประเทศฉายวันแรกฟาดเรียบไปถึง 14 ล้าน โดย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น กับผลงานกำกับโดย ไมค์-ภณ ธฤต โชติกฤษฎาโสภณ และกำกับภาพโดย เดชา ศรีมันตะ ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ นำแสดงโดย เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี รับบท บอลลูน, เจมส์-ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์  รับบท เฟิร์ส, มีน-พีรวิชญ์  อรรถชิตสถาพร รับบท คุณโท (โท มิน จุน), ปอนด์-คุณพัทธ์  พิเชษฐ์วรวุฒิ รับบท อ๊อด สัปเหร่อ, ต้า-อธิวัตน์ แสงเทียน รับบท เณรน็อต, แชมป์-ชนาธิป โพธิ์ทองคำ รับบท นาคคำ, คิวเท ซิม รับบท แปมแปม, ตูน-อติรุจ แสงเทียน รับบท คิดดี, เทมโป-กัณฐพัทธ์ กิติชัยวรางค์กูร รับบท เณรน้ำเหนือ, มาดามฟันนี่-ฐิติพันธ์ รักษาสัตย์ รับบท ชอน ซงฮี (ผจก. คุณโท), ลีโอ พุฒ รับบท พระธุดงค์ 

              นี่คือหนังภาค 3 และการที่ต้องดู 2 ภาคแรกมาก่อนเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าหนังหยิบเอาตัวละครเดิมและเรื่องราวที่ผูกปมทิ้งไว้ในภาคที่แล้วมาเดินเรื่องต่อในภาคนี้ พร้อมเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาเพื่อเติมสีสันให้เรื่องราวด้วย  ในส่วนของการเดินเรื่องต้องยอมรับว่ามีความวุ่นวายและสับสนน้อยลงกว่า 2 ภาคแรก ทำให้รู้สึกไม่รำคาญเท่าไหร่นัก แต่ความน่ารำคาญมันไปอยู่ที่ตัวละครหลักและตัวละครรองที่ค่อนข้างจะเละเทะไปกับการเล่นแบบบ้า ๆ บอ ๆ และทีเล่นทีจริงในหลายสถานการณ์ตลอดทั้งเรื่องเสียมากกว่า หนังมีความตลกมากกว่าความน่ากลัว หลายครั้งที่หัวเราะไปกับเรื่องราวและสถานการณ์ ในส่วนของความน่ากลัวคือน้อยมากเลย ถึงแม้จะมีเรื่องราวของคำสาปและผีสางเข้ามาแบบเต็ม ๆ ก็ตาม โดยหนังผสมผสานความเชื่อทางพุทธศาสนาและทางไสยศาสตร์ตลอดจนความเชื่อท้องถิ่นทางอีสานในเรื่องพญานาคออกมาแบบพอรับได้ บวกกับโทนหนังที่ออกไปทางตลกและเบาสมองพอถึงคราวจะจริงจังกับเรื่องราวอารมณ์มันก็เลยไปไม่ถึง แต่โดยรวมดูแบบคลายเครียดและเอาความตลกเป็นที่ตั้งหนังก็ให้ความบันเทิงดี   แถมยังแทรกคติสอนใจทางพุทธศาสนาด้วย

ติดให้ **

              เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง “Till We Meet Again…ภารกิจรักด้ายแดง” : Kai Ko(ไค เคอ) รับบท อลัน, Gingle Wang(จิงเกิ้ล หวัง) รับบท พิ้งกี้ กามเทพสาวแสนซนคู่หู

              คำถามภาพยนตร์เรื่อง “พี่นาค 3” ใครเป็นผู้กำกับ?

ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่

#หนังดีติดดาว

32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ขอบคุณ  ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ที่สนับสนุนของรางวัลเล่นเกมทายปัญหา

              สหมงคลฟิล์ม ส่ง 6 นักศึกษาเปิดตำนานสุดสยองกลายเป็นเรื่องจริงในภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปีเรื่อง “เทอมสอง สยองขวัญ” โดย “3 ผู้กำกับรุ่นใหม่” อย่าง “พลอย ภัทรภร” (เชียร์ปีสุดท้าย), “ก๋วยเตี๋ยว จตุพงศ์” (เดอะซี) และ “ต้น เอกภณ” (ตึกวิทย์เก่า) แท็กทีม 6 นักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือ ทั้ง เจมส์ ธีรดนย์, นาน่า ศวรรยา, กิต Three Man Down, เบลล์ เขมิศรา, มิวสิค BNK48 และ แคร์ ปาณิสรา มาเถ่ายทอด “3 เรื่องสยองขั้นสุด” ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์สยองในห้องเชียร์ที่จะทำให้ปีนี้เป็นเชียร์ปีสุดท้าย, ผีนักศึกษาแพทย์สุดหลอนจะกลับมาทวงคืนเตียงซีในวันสถาปนามหา’ลัยทุกปี, ตึกวิทย์เก่าที่ยืนหนึ่งเรื่องตำนานสยองแค่เลี้ยวเข้าผิดทิศชีวิตก็อาจสู่ทางผิดไปตลอดกาล ทั้ง 3 เรื่อง 3 รสชาติที่จะทำให้ผู้ชมต้อง “เหวอ! หวีด! ว้าก!” กันลั่นโรง

              เชียร์ปีสุดท้าย ชอบมากที่สุด หนังเข้าใจหยิบเอาประเด็นเรื่องการเห็นผีมาเทียบกับความสัมพันธ์ฉันเพื่อนได้อย่างเฉียบคม บทหนังโฟกัสไปที่ตัวละครเพื่อนสองคน จนทำให้ตัวละครอื่นทั้งคนและผีกลายเป็นตัวประกอบไปหมด จังหวะเข้าทำก็พอมีให้สะดุ้งบ้าง เดอะ ซี ชอบที่หยิบเอานักเรียนแพทย์มาเป็นตัวเดินเรื่อง คนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์มันจะเชื่อเรื่องแบบนี้ไหม การวางโครงเรื่องและปูพื้นเร็วดี พอรู้ว่าใครเป็นใครก็ใส่เกียร์เดินหน้าทันที หนังสร้างความกดดันในจังหวะเข้าความสยองขวัญได้ดีกว่าตอนแรก แต่มาตกม้าตายเอาช่วงไคลแมกซ์ที่คลายปมได้แบบตลกอ่ะ  อารมณ์และความรู้สึกโดยรวมเมื่อดูจบทั้ง 3 เรื่องแล้ว คือมันก็เป็นหนังที่ดูได้ ความสยองขวัญก็ตอบโจทย์ในระดับหนึ่ง แต่จะมีความสะดุดในเรื่องอารมณ์น่ากลัวอยู่บ้าง ในตอนนึงและโคตรเยอะในอีกตอนนึง ซึ่งก็หมายความว่ามีอยู่ตอนเดียวที่ควบคุมความสยองขวัญไว้ได้ตลอดทั้งเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสามเรื่องมีเหมือนกันก็คืออารมณ์และเรื่องราวมันไปไม่สุดทางเลย

ติดให้ **

              แดง พระโขนง” นำแสดงโดย เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน, มาชิดา สุทธิกุลพานิช, ภูวรักษ์ คำสิงห์  กำกับโดย วัชรพงษ์ ปัทมะ, เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ กับเรื่องราวหลังจากที่ผีนางนากแห่งทุ่งพระโขนง โดนสมเด็จโตปราบและได้นำปั้นเหน่งของนางนากไปบำเพ็ญเพียรกับพระมาก ทุ่งพระโขนงจึงกลับมามีความสงบสุข 10 ปีต่อมามีผีเด็กอาละวาดทำร้ายคนในทุ่งพระโขนงอีกครั้ง ชาวบ้านหวาดผวาว่าเป็นฝีมือของ ‘ไอ้แดง’ ลูกของนางนากที่สมเด็จโตไม่ได้นำร่างไปบำเพ็ญเพียรด้วย ทำให้ชาวบ้านทุ่งพระโขนงหวาดผวาและหาทางที่จะทำให้หมู่บ้านกลับมาสงบสุขให้ได้

              หนังมีความสนุกและน่ารักแบบหนังที่ใช้เด็กเป็นตัวเดินเรื่อง แต่น่าเสียดายที่ความเป็น coming of age เบาบางมาก ๆ หนังดูเหมือนจะให้ตัวละครเด็ก ๆ ได้เรียนรู้และเติบโตจากเหตุการณ์ในเรื่อง แต่สุดท้ายมันกลับดูยัดเยียดจนเลี่ยนเกินไป ส่วนเส้นเรื่องที่ขยับเดินหน้าไปท่ามกลางมุกตลกที่มีมาตลอดทั้งเรื่อง ก็ขำได้เรื่อย ๆ แต่โดยส่วนตัวไม่ขำกับตลกแบบไทย ๆ ที่น่าจะยกเครื่องใหม่และเลิกเอาความผิดปกติทางร่างกาย ปมด้อย ความแตกต่างทางเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์มาล้อเลียนกันได้แล้ว ความสยองขวัญมีบ้าง แบบพอให้สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็นั่นแหล่ะ หนังมันเน้นไปที่ความตลกขบขันมากกว่า แต่หนังคารวะความเป็น ‘แม่นาก พระโขนง’ ด้วยการใส่ฉากที่เป็น iconic scenes จากเวอร์ชันหนังและละครที่เคยผ่านตาพวกเราหลายฉาก ตรงนี้ขอชื่นชม แถมโปรดักชันดี งานสร้างฉากอะไรต่อมิอะไรนี่ดูย้อนยุคแบบไม่ปลอมและไม่สุกเอาเผากิน คุมโทนความเป็นหนังพีเรียดได้ดี CG ก็ดีตามมาตรฐานหนังไทย ไม่ได้อลังการแบบหนังฮอลลีวูด

ติดให้ **

Related posts